รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการสร้างและดูแลระบบสาธารณูปโภคให้เกิดสุขภาวะอนามัยที่ดี เพื่อให้ประชาชนมีน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภค พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งกำชับให้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ติดตามการใช้ประโยชน์และดูแลรักษาระบบประปาบาดาลและจุดบริการน้ำบาดาลทุกพื้นที่ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

กรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยนายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 มอบหมายให้ส่วนควบคุมกิจการน้ำบาดาล ลงพื้นที่ติดตามการใช้ประโยชน์และตรวจสอบการใช้งานระบบประปาบาดาล โครงการศึกษาระบบประปาบาดาลโดยใช้เทคนิคการเจาะและประสิทธิภาพบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ระดับลึก ด้วยวิธีการเจาะแบบระบบหมุนดูดกลับ (Reverse Circulation, RC) และแบบระบบหมุนตรง (Direct Circulation, DC) ในพื้นที่อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี (ระยะที่ 2) ซึ่งได้รับงบประมาณสนันสนุนจากกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล ณ บ้านกล้วย ตำบลบ้านกร่าง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี

ทั้งนี้ พื้นที่ตำบลบ้านกร่าง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี มีลักษณะทางอุทกธรณีวิทยาเป็นตะกอนที่เกิดจากการทับถมโดยทางน้ำของแม่น้ำท่าจีน ประชาชนส่วนใหญ่ใช้น้ำบาดาลที่ความลึกระดับน้อยกว่า 200 เมตร ชั้นกรวดทรายมีความหนาน้อยกว่า 5 เมตร คุณภาพน้ำไม่ดี ทำให้ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน กรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) จึงดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อช่วยบรรเทาความเดือนร้อนจากปัญหาขาดแคลนน้ำให้ประชาชนในพื้นที่กว่า 5,000 คน หรือมากกว่า 1,400 ครัวเรือน ได้มีน้ำอุปโภคบริโภคได้อย่างเพียงพอ โดยระบบประปาบาดาล ประกอบด้วย บ่อน้ำบาดาล จำนวน 2 บ่อ ถังเหล็กเก็บน้ำชนิดทรงกระบอก ขนาดความจุ 300 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 2 ถัง หอถังเหล็กเก็บน้ำชนิดรักษาแรงดัน ขนาดความจุ 300 ลูกบาศก์เมตร พร้อมจุดบริการน้ำดื่มสะอาด จุดจ่ายน้ำถาวร และระบบท่อกระจายน้ำ 2,500 เมตร ปัจจุบันมีการใช้น้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคแล้วมากกว่า 70,000 ลูกบาศก์เมตร